ศึกแดงเดือด ระหว่าง ปีศาจแดง แมนยู กับหงส์แดง ลิเวอร์พูล ศึกแห่งศักดิ์ศรี ที่ไม่มีใครยอมใคร
ศึกแดงเดือด ระหว่าง 2 ยอดทีม แห่งเกาะอังกฤษ ต้นตอ และสาเหตุ ที่ทำให้ทั้ง แมน ยู ลิเวอร์พูล ทั้ง 2 ทีม กลายเป็นทีมคู่รัก คู่แค้นกันมา คงต้องย้อนกลับไป ระหว่างช่วงปี 1750 – 1850 กับความบาดหมาง ระหว่างทั้งสองเมือง ที่ยังไม่เกี่ยวข้อง กับเกมฟุตบอล ในสนามของ ทั้ง 2 ทีม
คงต้องย้อนไปถึง ในยุคของการ ปฏิวัติอุตสาหกรรม หลังจากชาวเมือง ของทั้ง 2 เมือง เกิดการเหยียดหยาม ระหว่างการเป็น คนในชนชั้นแรงงาน ของทั้ง 2 เมือง จากเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ใช่แค่จะเกิดขึ้น ในเรื่องของการดำเนินชีวิต ของคนทัั้งสองเมือง เพียงเท่านั้น แต่มันได้ลุกลาม
มาถึงเกมลูกหนัง ของทั้ง 2 เมือง ที่กล่าวได้ว่า เป็นคู่อริระหว่างกัน แม้จะไม่ได้อยู่ร่วมเมืองเดียวกัน แต่เมื่อทั้ง 2 ทีม จะต้องลงมาเผชิญหน้ากัน ในสนามฟุตบอล จริงเป็นสาเหตุว่า เจอกันเมื่อไหร่ คือจะไม่มีใครยอมใคร เมื่อเรื่องของศักดิ์ศรี มาคล้ำคออยู่
แม้กระทั่ง ศึกแดงเดือด ในยุคหลังๆนี้ แม้มันจะไม่ ทวีความรุนแรง เหมือนเมื่อในอดีต แต่แดงเดือด ก็ยังคงเป็นแดงเดือด ที่ไม่ใช่แค่เรื่อง ของการเดิมพัน ด้วยศักดิ์ศรี เพียงอย่างเดียว แต่จะมีเรื่องของ เกียรติประวัติ และความสำเร็จ ในลีกลูกหนังอังกฤษ ที่ทั้งสองทีม ครองความยิ่งใหญ่
เรื่องของจำนวนแชมป์ลีกสูงสุด ที่นับรวมตั้งแต่ ถ้วยดิวิชั่น 1 จนถึงพรีเมียร์ลีก ในปัจจุบัน จำนวนแชมป์ ที่ทั้งสองทีมคว้ามาได้ ห่างกันแค่ สมัยเดียวเท่านั้น แมนยู แชมป์ลีกสูงสุด 20 สมัย ลิเวอร์พูล 19 สมัย
ทั้งหมดนี้ มันได้สะท้อนให้เห็น เป็นหลักฐาน ถึงการเป็นคู่รัก คู่แค้นระหว่างกัน ได้อย่างชัดเจน และเนื่องด้วย อีกไม่กี่วัน ที่จะถึงนี้ ทั้งสองทีม มีคิวยกพล บุกมาเยือนเมืองไทย
กับโปรแกรม ช่วงปรีซีซั่น เพื่อมาลงเตะ ศึกแดงเดือด ที่เมืองไทยในรายการ The match 2022 เพื่อเป็นการ โหมกระแส แดง เดือด ไทย ของการแข่งขันในแมตช์นี้ ก่อนเกมการแข่งขัน จะเริ่มต้นขึ้น
บทความกีฬาน่าสนใจ วันนี้เราขอหยิบยก ศึกแดงเดือด สุดคลาสสิก ในความทรงจำ ที่ผ่านๆมา ในอดีต ที่คัดสรรแล้วว่า เป็นศึกแดงเดือด แมน ยู vs ลิเวอร์พูล ไทย ที่มีความมันส์ อัดแน่นไปด้วย คุณภาพอย่างแท้จริงกันครับ
ศึกแดงเดือด เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในปี 1994 ที่แอนฟิลด์
เกมนัดนี้ เกิดขึ้นในวันที่ 4 มกราคม 1994 เป็นการพบกัน ในเกมพรีเมียร์ลีก ที่สนามแอนฟิลด์ บ้านของทีมหงส์แดง ความสุดยอด และความคลาสสิก ของเกมนั้ดนี้ ถูกขนานนามว่า เป็นอีก 1 แมตช์ ที่ดีที่สุด ที่อยู่ในความทรงจำ ของแฟนบอล
โดยทีมปีศาจแดง แมน ยู ในยุคนั้น ภายใต้การคุมทีมของ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (ยังไม่ได้รับยศท่านเซอร์) ในขณะนั้น กำลังอยู่ในช่วงที่ ฟอร์มการเล่น แข็งแกร่งสุดๆ พร้อมกับนำเป็นจ่าฝูง ของลีกในฤดูกาลนั้น ต้องออกไปเยือน สนามแอนฟิลด์ ของลิเวอร์พูล ที่ตอนนั้นอยู่ ในอันดับ 9 ของตาราง
หลังเกมผ่านไปเพียง ครึ่งชั่วโมง สกอร์บอร์ดฟ้องว่า ทีมเยือนปีศาจแดง บุกมานำเจ้าถิ่น 3-0 จากประตูของ สตีฟ บรูซ, ไรอัน กิ๊กส์ และเดนนิสเออร์วิน ก่อนที่ในครึ่งหลัง สิ่งที่ไม่คาดฝัน
สำหรับแฟนผีแดง ก็เกิดขึ้น เมื่อทีมเจ้าถิ่น ใช้เวลาก่อนหมด เวลาการแข่งขัน เพียง 11 นาที ไล่ตามตีเสมอ ทีมเยือนสำเร็จ 3-3 จากประตูของ ไนเจล คลัฟ ทำคนเดียว 2 ลูก และอีกลูกจาก นีล รัดด็อค จบเกมแบ่งแต้มกันไป แบบสุดดราม่า
ศึกแดงเดือด นัดชิงชนะเลิศ FA CUP ฤดูกาล 1995 – 1996
อีกหนึ่งเกม ที่อยู่ในความทรงจำ ของผู้เขียนเอง นั่นก็คือเกมในนัดนี้ จำได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกม ที่มีโอกาสได้ดู แดง เดือด ไทย ถ่ายทอด สด และเป็นจุดเริ่มต้น ของการเป็นแฟนตัวยง ของทีมปีศาจแดง ของผู้เขียนเอง มาจนถึงทุกวันนี้
เกมนัดดังกล่าว เกิดขึ้นในวันที่ 11 พ.ย. 1996 เป็นการโคจร มาเจอกัน ในศึก FA CUP โดยมีตำแหน่งแชมป์ เป็นเดิมพัน ที่สนามเวมบลีย์ เกมนัดนี้ เป็นอีก 1 เกม ที่ทั้งสองทีม สู้กันได้ อย่างสนุกสูสี นักเตะแมนยู ในยุคนั้น
ประกอบด้วยนักเตะ จากชุด คลาสออฟ 92 เป็นแกนหลัก ประกอบไปด้วย ไรอัน กิ๊กส์, พอล สโคลด์, เดวิด เบ็กแฮม, แกรี่ เนวิลล์, ฟิล เนวิลล์
ส่วนทางทีมหงส์แดง นักเตะแกนหลัก ในยุคนั้น ก็เป็นกลุ่มนักเตะ ในเจเนอเรชั่นใหม่ ของสโมสร ที่กำลังเป็นดาวรุ่ง พุ่งแรงขึ้นมา หรือที่เหล่าเดอะค็อป ขนามนามว่า แก๊งสไปซ์บอย
เช่น เจมี่ เรดแน็ป, สตีฟ แม็คมานามาน, เจสัน แม็คคาเทียร์, เดวิด เจมส์ ภายใต้กุนซือ รอย อีแวนส์ เกมนัดนี้ จบลงด้วยชัยชนะ ของปีศาจแดง เหนือลิเวอร์พูล 1-0 จากลูกยิง ของเอริค คันโตน่า กับลูกถอยหลังยิง ในตำนาน เอฟเอคัพ ที่ยังถูกพูดถึง และยังหาดูได้ จนถึงทุกวันนี้
แดงเดือด ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2008 – 2009 ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ศึกแดงเดือด เกมนัดดังกล่าว เกิดขึ้นในวันที่ 14 มีนาคม 2009 ในเวลานั้น ทั้ง 2 ทีมกำลังขับเคี่ยว โดยมีตำแหน่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก เป็นเดิมพัน โดยแมนยูก่อนแข่ง กำลังนำเป็นจ่าฝูงของลีก ส่วนทีมเยือน ของราฟาเอล เบนิเตซ ก่อนแข่ง อยู่อันดับ 2
เกมนัดนี้ เป็นแมนยู ที่ได้ประตู ขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากลูกจุดโทษ ที่โฆเซ่ เรน่า ประตูหงส์แดง ไปทำฟาวล์ พาร์ค จี ซุง ในเขตโทษ และเป็นคริสเตียโน่ โรนัลโด้ รับหน้าที่สังหาร เข้าไปไม่พลาด แมนยูขึ้นนำ หลังจากนั้น ก็ดูเหมือนว่า เกมจะตกเป็นของเจ้าถิ่น ได้อย่างเบ็ดเสร็จ
แต่ในอีกแค่ 5 นาทีถัดมา จากการกะจังหวะผิดพลาด ของเนมันย่า วิดิช กองหลังแมนยู ที่กะจังหวะบอลผิด จนถูก เฟอร์นันโด ตอร์เรส ศูนย์หน้า ฟอร์มร้อนแรง ของทีมเยือนในขณะนั้น ฉกบอลหลุดเดี่ยว เข้าไปยิงประตูตีเสมอ ให้กับหงส์แดง เป็นผลสำเร็จ
หลังจากเสียประตูตีเสมอ เจ้าถิ่นเหมือนจะรวนไปเลย ก่อนที่จะมาเสียประตูที่ 2 จากจุดโทษ ของ สตีเฟ่น เจอราร์ด ให้ทีมพลิกนำ 2-1 ก่อนจบครึ่งแรก มาในครึ่งหลัง ทีมเยือนมาได้ลูกที่ 3 จากฟรีคิกของฟาบิโอ ออเลริโอ หลังจากทีมเจ้าถิ่น เหลือ 10 คน ในสนาม หลังจากวิดิช ถูกใบแดง ไล่ออกจากสนามไป
แล้วหงส์แดง ก็มาได้ประตู ตอกฝาโลง ส่งผีลงหลุม เป็น 4-1 จากการหลุดเข้าไปกระดกบอลข้ามหัว ฟารเดอร์ซาร์ ของอันเดรียส ดอสเซน่าเป็นประตูปิดท้าย ให้ทีมบุกมาถล่ม ไปด้วยสกอร์นี้ หลังการเก็บ 3 แต้มในนัดนั้น ทำให้ความหวัง ในการลุ้นแชมป์ลีก
สมัยแรกของหงส์แดง ถูกจุดประกาย ขึ้นมาอีกครั้ง แม้ในท้ายที่สุด เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล ทีมปีศาจแดง ก็ไม่พลาดที่จะ คว้าตำแหน่งแชมป์ลีก ไปครอง เป็นสมัยที่ 18และทั้งหมดนี้ก็เป็น ศึกแดงเดือด ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึง จริงๆแล้ว อาจจะมีอีกหลายๆเกม ที่อยู่ในความทรงจำ ของแฟนบอลทั้งสองทีม
ในบทความนี้ ขอหยิบยก เกมดังกล่าวมาพูดถึง ก่อนที่ทั้งสองทีมนี้ จะลงสนาม เผชิญหน้ากัน ที่สนาม ราชมังคลา กีฬาสถาน ศึก แดง เดือด วัน ไหน ในวันที่ 12 กรกฏาคมนี้ เวลา แดง เดือด ไทย กี่ โมง เตะกันเวลา 20.00 น. ก็ขอให้แฟนบอลทั้ง 2 ทีม ติดตามชม และเชียร์ทีมรัก กันอย่างมีความสุขครับ
by Bangball